วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2562

ประวัติค่ายบางกุ้ง


เดิมที ค่ายบางกุ้ง เป็นค่ายทหารเรือมาตั้งแต่สมัยของ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศ พระมหากษัตริย์แห่ง กรุงศรีอยุธยา มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากองทหารอื่นๆ ในการต่อต้านกองทัพของข้าศึกที่ยกพลเข้ามาตีหัวเมืองรอบนอก รวมถึงหมายจะยึดเมืองหลวงไว้ด้วยเช่นกันในสมัยนั้น ทว่าจนแล้วจนรอดความรุ่งเรืองที่เคยสั่งสมมาก็ถึงคราวดับสูญเมื่อ กรุงศรีอยุธยาแตกเป็นครั้งที่ 2 ค่ายแห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้างมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนเมื่อคราว สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกอบกู้เอกราชได้สำเร็จจึงโปรดให้มีการรวบรวมพลพรรคชาวจีนจากเมืองต่างๆ ทั้ง ระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี มาเป็นกองทหารรักษา ค่ายบางกุ้ง หรือในอีกชื่อเรียกว่า ค่ายจีนบางกุ้ง นั่นก็เนื่องมาจากเหตุผลนี้เอง และแม้ว่าช่วงเวลาหลังจากที่ พระเจ้าตากฯ โปรดให้ชาวจีนมารวมกันยังค่ายแห่งนี้แล้ว ยังจะต้องเผชิญกับศึกสงครามน้อยใหญ่มากครั้งก็ตามที แต่ในที่สุดก็ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ มาได้จนกระทั่งปัจจุบัน
โดยในวันที่เรามีโอกาสไปเยือนค่ายแห่งนี้สิ่งหนึ่งที่สร้างความสะดุดตาให้ใน ทันทีคงจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก โบสถ์ปรกโพธิ์ ซึ่งแม้ว่าเมื่อยืนมองห่างๆ อาจจะดูไม่รู้ว่าอันที่จริงแล้วภายใต้ร่มเงาของกิ่งก้านใบและรากไม้ที่ เลื้อยขึ้นหนาแน่นอยู่นั้นจะมีโบสถ์ซึ่งเป็นเสมือนไข่ในหินอย่างไรอย่างนั้น หรือถ้าใครจะบอกว่าบรรดา ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และ ต้นกร่าง ที่ยืดเหยียดตัวทำหน้าที่เป็นผนังและหลังคาของโบสถ์ก็คงไม่ผิดนัก แต่น่าแปลกก็ตรงที่หน้าต่างด้านข้างของโบสถ์กลับเหลือช่องให้สามารถมอง ผ่านกรอบภาพที่รังสรรค์โดยธรรมชาติเข้ามาเห็น หลวงพ่อนิลมณี พระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์สีทองอร่าม ซึ่งประดิษฐานอยู่พร้อมกับภาพเขียนฝาผนังที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธ ประวัติต่างๆ แม้ว่าบางส่วนอาจเลือนรางไปตามกาลเวลา ทว่าก็ยังมากด้วยความน่าสนใจอยู่ดี กระทั่งเดินเข้านอกออกในชื่นชมความมหัศจรรย์ของโบสถ์หลังนี้อยู่หลายรอบ จนบอกได้คำเดียวว่าสุดยอด ว่าแต่จะสุดยอดอย่างไรก็ต้องลองมาพิสูจน์กันดู






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น